เจ้าของร้านค้านี้ ไม่ได้เข้าสู่ระบบเป็นระยะเวลา 28 วัน แล้ว
ไม่รับคืนสินค้าหรือเปลี่ยนคืน
ข้อมูล
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
รายละเอียดสินค้า

ร้อยไหมก้างปลา

  การร้อยไหมก้างปลา

คือ การยกกระชับและฟื้นฟูผิวโดยการใช้ไหมละลายเทคนิคเกาหลี

ซึ่งเป็นไหมละลายที่มีควาปลอดภัยสูงนำเข้าจากเกาหลี ไหมละลายชนิดนี้แต่เดิมใช้ในการเย็บเนื้อเยื่อหัวใจจึงปลอดภัยแลโอกาสการแพ้น้อยมาและร่างกายจะค่อยๆกำจัดออกภายใน6 เดือน

หลังการร้อยไหมก้างปลาละลายคนไข้จะรู้สึกความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทันทีและจะเริ่มเห็นผลชัดเจนมากขึ้นภายใน1-2 เดือน

แต่จะเห็นผลชัดเจนที่สุดเมื่อถึง 6 เดือนและอาจอยู่ได้นาน 1-1.6 ปีขึ้นกับการดูแลรักษาของคนไข้ผู้ได้รับการร้อยไหม

เช่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอดูแลเอาใจใส่เรื่องการทานอาหารการงดสูบุหรี่

งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และที่สำคัญที่สุดคือการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ


Q&A คำถามที่พบบ่อย

Q

การร้อยไหมมีกี่แบบประเภท ?

A

ตอบ 3 ประเภทหลักใหญ่ๆ คือ ..

1. ไหม APTOS THREADS หรือ FEATHER-LIFT เป็นไหมประเภทไม่ละลาย ลักษณะไหมจะมีลักษณะเป็นก้างปลา ส่วนที่เป็นก้างปลาจะยึดเกาะกับผิวหนัง

ข้อเสียคือ เมื่อระยะเวลานานไป ตัวก้างปลาที่ยึดเกี่ยวกับเนื้อเยื่ออาจหลุดออก หรือ ก้างปลาหัก ทำให้ผิวหนังหนังกลับมาหย่อนคล้อย

และในบางกรณีอาจมีไหมโผล่ออกมาจากผิวซึ่งจะต้องไปทำการผ่าตัดเพื่อเอาออก ผลจากการร้อยไหมประเภทนี้จะอยู่ได้ไม่นานนักวิธีนี้ไม่ค่อยได้รับความนิยมแล้วในปัจจุบัน

2. GOLD THREAD หรือ ที่เรียกกันว่า “ไหมทอง” คือ การร้อยด้วยไหมที่ทำมาจากทองบริสุทธิ์ 99.99%

ไหมมีขนาดประมาณเท่าเส้นผม ข้อจำกัดของวิธีนี้ คือหลังร้อยไหมต้องเลี่ยงการทำเลเซอร์เพราะการทำเลเซอร์อาจส่งผลให้ไหมขาดได้และไม่เหมาะสำหรับผู้แพ้โลหะ

เพราะถ้าหากแพ้จะต้องรักษาด้วยการผ่าตัด และหากเทียบกับวิธีอื่นไหมทองจะมีราคาค่อนข้างสูงกว่า

และสุดท้ายคือไหมทองจะสลายตัวช้ามากคือสามารถอยู่ได้นานถึง 8 – 15 ปี ดังนั้นหากใครกลัวเรื่องของสารตกค้างควรเลือกวิธีอื่น

3.ไหม PDO หรือ ไหมละลาย ตัวนี้เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายเพราะไม่ต้องกังวลเรื่องสารตกค้าง

ไม่มีผลค้างเคียงและภาวะแทรกซ้อน ถูกพัฒนาขึ้นในประเทศเกาหลี ไหมประเภทนี้ได้รับความนิยมมากในประเทศไทย

ร้อยไหมละลายหรือไหม PDO ได้รับการยอมรับในวงการแพทย์อย่างกว้างขวาง

และยังได้รับการรับรองมาตรฐานจากองค์การอาหารและยาทั้งในประเทศและต่างประเทศเพราะมีความปลอดภัยสูง

ข้อดีของไหมละลาย หรือไหม PDO ก็คือการร้อยไหมจะไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน

เมื่อกระตุ้นแล้วก็จะส่งผลให้ผิวกระชับเต่งตึง และยังช่วยให้ผิวพรรณของเราดูสดใสเปล่งปลั่ง กระจ่างใส เห็นผลได้ใน 14 วัน

ส่วนไหมที่เราร้อยเข้าไปนั้นจะละลายไปภายใน6เดือน และผลลัพธ์จากการร้อยไหมจะคงอยู่ได้นานถึง 2 ถึง 3 ปี

 

 

Q

ร้อยไหมเจ็บไหม ?

A

เป็นคำถามที่พบบ่อยเพราะหลายๆคนมักจะกลัวเจ็บและไม่กล้าผ่าตัดจึงเลือกร้อยไหมเพื่อยกกระชับใบหน้าแทน

ซึ่งแท้จริงแล้วการร้อยไหมไม่เจ็บอย่างที่คิดไม่ใช่การผ่าตัดศัลยกรรมใหญ่ ข้อดีคือไม่ต้องพักฟื้นนานเหมือนการผ่าตัดศัลยกรรมอีกด้วยและเจ็บน้อยมาก

 

Q

ข้อดีของไหมก้างปลาแบบละลาย PDO ทำไมต้องเลือกไหมก้างปลาละลาย หรือ ร้อยไหม PDO ?

A

หลังร้อยไหมก้างปลา 6-8 เดือน ไหมจะละลายไปเอง ผลลัพธ์จากการร้อยจะอยู่ได้นานถึง1-3ปี แล้วแต่การดูแลและอายุแต่ละบุคคล ค่อนข้างปลอดภัย

เพราะไหมที่ใช้นี้เป็นไหมที่ใช้ในการรักษาเย็บหลอดเลือดและเย็บกล้ามเนื้อหัวใจ

หลังร้อยไหมเห็นผลทันที และจะเห็นผลชัดเจนหลังทำ 2 เดือน หลังร้อยไหมเสร็จสามารถกลับบ้านได้ ไม่ต้องพักรักษาตัว

 

Q

การร้อยไหมเหมาะกับใคร ?

A

จริงๆแล้วไม่มีข้อกำหนดสำหรับผู้ที่ต้องการทำ สามารถทำได้ทุกคน ทั้งผู้หญิง ผู้ชาย และทุกช่วงอายุ

โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับผิวหน้าหย่อนคล้อย ไม่เต่งตึง หรือต้องการปรับรูปหน้า V SHAPE

สามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ด้วยการร้อยไหมไม่จำเป็นต้องผ่าตัด

สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัดการยกกระชับหน้าด้วยการร้อยไหมจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจกว่าวิธีอื่น

 

Q

การดูแลหลังร้อยไหม ยากหรือไม่ ?

A

ในการร้อยไหมเพื่อความปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่ดี ควรอยู่ในการดูแลของแพทย์เฉพาะทางที่ความเชี่ยวชาญ

และหลังร้อยไหมแล้วควรปฏิบัติตามข้อแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ดังนี้

 2 วันแรกหลังร้อยไหม ควรประคบเย็น
 งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
 พยายามหลีกเลี่ยงความร้อน เพื่อให้ใบหน้ากระชับเข้ารูป
 แพทย์จะให้รับประทานยาแก้อักเสบ ควรปฏิบัติตามที่แพทย์แจ้งอย่างเคร่งครัด
 หลังร้อยไหมอาจมีอาการแทรกซ้อนอย่างเช่น มีอาการบวม มีรอยฟกช้ำ แต่อาการเหล่านี้จะหายเป็นปกติภายใน 1-2 สัปดาห์

 

 

Q

ไหม PDO เรียบ กับ ไหมก้างปลาต่างกันอย่างไร ?

A

 ไหม PDO เรียบเส้นเล็ก ลักษณะไหมจะเป็นเส้นตรง ช่วยในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน

ช่วยให้ผิวเราแน่นกระชับขึ้น ผิวหน้าดูใสขึ้นกรอบหน้าดูชัดเจน

หน้าดูเรียวสวยได้รูปมากขึ้น เป็นไหมตัวแรกๆที่เริ่มใช้ตอนร้อยไหมเน้นเรื่องการกระตุ้นคอลลาเจนผิวกระชับมากกว่า

หากต้องการร้อยไหมpdo เพื่อยกใบหน้านั้นจะต้องใช้ไหมมากพอสมควรในการสานผิว

และจะร้อยชั้นผิวDERMIS เพื่อหวังผลเรื่องการกระตุ้นคอลลาเจน

 ไหมก้างปลา อยู่ในกลุ่มของไหม PDO เช่นกัน แต่จะมีลักษณะไหมจะเป็นเส้นตรงแต่จะมีเงี่ยงออกมาตามแนวเส้นไหมคล้ายก้างปลา

ซึ่งส่วนของเงี่ยงจะช่วยในการเกี่ยวSKINใต้ผิว ให้ยกขึ้นตามแนวดึงขึ้นของไหม

และผิวจะยกกระชับตึงจากด้านล่างของชั้นผิว ทำให้แก้มยกกระชับขึ้น หน้าเรียวขึ้นผิวกระชับไม่ฟูไม่หย่อนคล้อย โดยไม่ต้องผ่าตัดหรือพักฟื้น 

ผลลัพธ์ในระยะยาวอาจดีกว่าการศัลยกรรมดึงหน้าเพราะการผ่าตัดดึงหน้านั้นจะต้องตัดผิวที่ยืดยาวหย่อนออก

เมื่อผิวสั้นลงผิวหนังจะถูกเย็บจนตึงเหมือนขึงสะดึงใบหน้าหลังผ่าตัดดึงหน้า

จึงตึงเหมือนใส่หน้ากากปราศจากความยืดหยุ่น

และเมื่อเวลาผ่านไป3-5 ปีผิวก็จะยืดและบางลงไปอีก 

อาจทำให้ผิวเหี่ยวย่นง่ายและจะบางลงไปเรื่อยๆ

และในบางเคสอาจมีปัญหาเรื่องตาปลิ้นฯลฯ ดังนั้นทางเลือกใหม่ที่ดีกว่าคือการร้อยไหมเพื่อทำให้ผิวเต่งตึงขึ้น

 

Q

การร้อยไหมไม่หมาะกับใครบ้าง ?

A

แพทย์จะสอบถามประวัติสุขภาพและตรวจดูว่ามีโรคประจำตัวหรือภาวะที่ไม่แนะนำให้เข้ารับการร้อยไหม
1. โรคแพ้ภูมิตัวเอง
2. ไวรัสตับอักเสบ บี ไวรัสตับอักเสบ ซี
3. ติดเชื้อเอชไอวี
4. หญิงตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร
5. กำลังใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด มีภาวะติดเชื้อ

 

Q

ร้อยไหมก้างปลา ยกร่องแก้มได้จริงหรือไม่ ?

A

จริงๆแล้วการร้อยไหมก้างปลานั้นจะช่วยในเรื่องการยกกระชับอยู่แล้วและเหมาะมากกับคนที่มีปัญหาการหย่อนคล้อย

บริเวณแก้มที่เกิดจากวัยที่เพิ่มขึ้นและสิ่งที่ตามมา คือ ปัญหาร่องแก้มนั่นเอง

เชื่อว่าสาวๆหลายๆ คนไม่ชอบแน่นอนและเป็นปัญหาที่แก้ยากหากใช้แค่ครีมบำรุงผิวอย่างเดียวเชื่อว่าเอาไม่อยู่แน่นอน

ทางเลือกสำหรับคนมีปัญหาร่องแก้มที่อยากดีขึ้นการร้อยไหมก้างปลาอาจจะเป็นตัวช่วยคุณสาวๆได้ แค่บางส่วนเท่านั้น

แต่จะไม่เติมเต็มหรือยังไม่เป็นที่พอใจหรือเนียนเหมือนกับการฉีด FILLER แต่การร้อยไหมก้างปลาจะยกได้10-30%ของปัญหา

 

Q

ปัญหาหลังร้อยไหมก้างปลา ที่อาจจะเกิดขึ้นได้มีอะไรบ้าง ?

A

 ไหมขาด เนื่องจากบางครั้งเราแสดงอาการหัวเราะ หรือยิ้มตึงมากเกินไป ทำให้มีโอกาสที่ไหมจะตึงรั้งขาด แต่ไม่ได้เป็นอันตรายใดๆ เพียงแต่ผิวอาจจะไม่ตึงเท่าที่ควร

 ผิวไม่เรียบหรือเป็นรอยบุ๋มบางจุดกรณีนี้อาจจะเกิดจากผิวคนไข้บางมาก

หรือแพทย์อาจจะร้อยไหมตื้นเกินไปหรืออาจจะเกิดจากช่วงแรกๆมีอาการบวมช้ำ ยังไม่เข้าที่ แต่จะค่อยๆดีขึ้นและหายไปเอง

 ไหมทะลุหรือไหมโผล่จากผิวอาจจะเกิดขึ้นได้ในกรณีแพทย์อาจจะร้อยไหมตื้นเกินไป หากมีอาการนี้ควรรีบไปแพทย์แพทย์เพื่อทำการรักษา

 เป็นตุ่มแดง อักเสบอาจจะเกิดจากการติดเชื้อใต้ผิวหรือไม่ได้ทานยาจามที่แพทย์สั่งหรือสถานที่ไม่สะอาดพอ ควรรีบกลับไปพบแพทย์โดยด่วน


6 อาการหลังร้อยไหมก้างปลา หรือไหมเงี่ยง และอาการหลังร้อยไหมที่เกิดขึ้นได้

การร้อยไหมมาแล้ว อาจจะประสบปัญหาหลังร้อยไหม ที่ไม่สบายใจ และเกิดความสงสัยว่า สิ่งนี้เกิดจากอะไร ปกติหรือไม่ วันนี้เรามีคำตอบ กับ 6 อาการหลังร้อยไหมก้างปลา ซึ่งเชื่อว่า จะทำให้ทุกคนเชื่อใจ และสบายหลังจากร้อยไหมแน่นอน

 
6 อาการหลังร้อยไหมก้างปลา หรือไหมเงี่ยง และอาการหลังร้อยไหมที่เกิดขึ้นได้ 
1.  Q : ร้อยไหมแล้ว อ้าปากไม่ได้
A : หลังการร้อยไหม สามารถอ้าปากได้ปกติ เพียงแต่ว่าจะอ้าปากกว้างเท่าเดิมไม่ได้ช่วงแรก ซึ่งเป็นผลจากการร้อยไหมที่อาจจะมีการดึงรั้ง แต่ไม่ได้เป็นถาวร  อาการดังกล่าวจะเป็นประมาณ
1-2 สัปดาห์ แล้วแต่ case ของแต่ละคน
 
2. Q: หลังร้อยไหมแล้ว หน้าบุ๋มหรือหน้ายุบ
A: อาการหลังร้อยไหม อาจมีรอยบุ๋มได้ ซึ่งเกิดจากการดึงไหม หากบางท่านผิวหย่อนคล้อยเยอะ อาจจะมีหน้าบุ๋มในบางท่าน แต่ไม่ต้องตกใจไปค่ะ อาการดังกล่าวไม่ได้เป็นถาวร จะหายได้เอง แต่อาจจะใช้เวลาโดยใช้วลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ขึ้นไป
 
3. Q: ร้อยไหมแล้วหน้าเป็นคลื่น 
A:คล้ายกับอาการร้อยไหมแล้วหน้าบุ๋มค่ะ บางคนจะเหมือนเป็นคลื่นไม่เสมอกัน เกิดหลังจากการร้อยไหม อาจเกิดอาการดังกล่าวได้ โดยเกิดจากการดึงไหม พอไหมเซตตัว ใช้ระยะเวลาประมาณ 1 เดือน ก็จะหายไปเอง
 
4. Q : ร้อยไหมแล้วจับผิวดูเป็นไต
A: หลังร้อยไหม อาจเกิดอาการเป็นก้อนไตได้ ก้อนไต เกิดจากการดึง เคลื่อนย้ายผิวหนัง ที่หย่อนคล้อยขึ้นไปรวมกัน สามารถจับและสัมผัสได้ในช่วงแรก อาการดังกล่าวไม่ได้เป็นถาวร พอไหมเซตตัว ก็จะหายไปเอง
 
5. Q : ร้อยไหมแล้วไหมขาด
A: เกิดได้จาก 2 สาเหตุหลัก อย่างแรกอาจจะเกิดจากเส้นไหมที่ไม่มีคุณภาพ ไหมที่เส้นเล็กเกินไป ทำให้เวลาร้อยแล้วเส้นขาดง่ายหรือไหมหมดอายุ อย่างที่ 2 คือคนไข้อาจจะอ้าปากกว้างเกินไปหรือมีการแสดงสีหน้ามากจนทำให้ไหมขาด
6. Q : ร้อยไหมแล้วหน้าเบี้ยว ปากเบี้ยว 
A: หลังการร้อยไหมแล้ว อาการหน้าเบี้ยวจะไม่เกิดขึ้น แต่สิ่งที่ตามองเห็น อาจจะดูเบี้ยว เพราะเกิดได้จาก การบวมของยาชา การบวมหลังร้อยไหม และการดึงยกของไหม อาการปากเบี้ยวเกิดขึ้นได้จากยาชา และไม่ได้เป็นทุกCase สามารถหายได้ภายใน 2 ชั่วโมง

1. Q : ร้อยไหม โหนกแก้มสูง
 A: การร้อยไหม เป็นการดึงผิวที่หย่อนคล้อย ร้อยขึ้นมา ทำให้ผิวที่โดนยกขึ้นมานั้น อาจจะสูงขึ้น ประมาณ 15-30 วัน แล้วแต่ปัญหาของแต่ละบุคคลและจะค่อยๆ ดีขึ้น หลังจากไหมเซตตัว ประมาณ 1 เดือน
 
2. Q : ร้อยไหม พร้อมโบท็อกซ์(botox)หน้าได้ไหม?
A : การร้อยไหม สามารถทำควบคู่ กับ botox โบท๊อกซ์ได้ ไม่มีผลข้างเคียงใดๆ เนื่องจากทำงานกันคนละอย่างและคนละชั้นผิว สามารถทำวันเดียวกันได้เลย

 3. Q :  หลังร้อยไหม หน้าบวมกี่วัน ?

A: การร้อยไหมเป็นการดึงหน้าโดยมีเข็มใส่ไหมไปใต้ผิว อาจจะมีอาการบวมบ้าง มากน้อยไม่เท่ากัน โดยปกติจะอยู่ที่ 3-14 วัน จะเริ่มยุบบวมเข้าที่มากขึ้น จนเรียบเนียนเป็นปกติเอง และใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 3 วัน 
 
4. Q : หลัง ร้อยไหม ทาครีมได้ไหม ?
A: หลังจากร้อยไหม ภายใน 24  ชั่วโมง ไม่ควรทาครีมบำรุงต่างๆ เพราะอาจทำให้ติดเชื้อบริเวญรอยแผลที่ยังปิดไม่สนิท ควรทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่า เพียงอย่างเดียว หลังจากนั้นสามารถทาครีมได้ปกติ
 
5. Q : ร้อยไหมกินปลาร้าได้ไหม
A: ควรงดของหมักดอง รวมถึงปลาร้า ประมาณ 2 สัปดาห์ เพื่อลดการบวมช้ำและทำให้ผิวสมานหายเร็วขึ้น และไม่กระตุ้นให้ผิวเกิดการอักเสบได้ได้ แนะนำเลี่ยงไปก่อนค่ะ
 
6. Q : หลังร้อยไหม กินไข่ได้ไหม
A: สามารถกินได้ปกติ จากความเชื่อบางท่านกลัวจะเป็นรอยนูนหรือคีลอยด์นั้นไม่จริง ไข่ถือว่าเป็นโปรตีนคุณภาพช่วยให้แผลสมานเร็วขึ้น 
 
7. Q : ร้อยไหม PDO ก้างปลา  กี่วันเห็นผล ?
 A : เห็นผลทันที หลังจากร้อยไหมเสร็จ ผิวจะยกขึ้นประมาณ 10-20% แต่ก็อาจจะมีการบวมจากการฉีดยาชา ซึ่งผิวยังไม่เข้าที่อาจจะใช้เวลา ประมาณ 1 เดือนผลจะค่อยๆชัดเจน กระชับมากขึ้น เต็มที่ 3 เดือน
 
8. Q : ร้อยไหม เมื่อไหร่จะเข้าที่ 
A  : การร้อยไหมเป็นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาในการสร้างคอลลาเจนปกติประมาณ 4 -6  สัปดาห์ และจะเข้าที่100% ประมาณ 3 เดือน
 
9. Q : ร้อยไหม นวดหน้า ได้ไหม
A: หลังจากร้อยไหม ไม่ควรนวดหน้าแรงๆ ตำแหน่งที่ร้อยไหม อย่างน้อย 2 สัปดาห์บริเวณใบหน้าในช่วง 2 สัปดาห์แรก 
 
10. Q : ร้อยไหมห้ามนอนตะแคงกี่วัน
A: หลังจากร้อยไหม ไม่ควรคว่ำหรือนอนตะแคง เพราะอาจจะทำให้ รู้สึกเจ็บในตำแหน่ง ที่ทำการร้อยไหม วิธีแก้คือ การนอนหงาย เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียดสี หรือสัมผัสผิวกับหมอนประมาณ 1-3 วันแรก แต่ไม่ได้มีผลเสียร้ายแรงใดๆ
 
11. Q : ร้อยไหมออกกำลังกายได้ไหม
A : หลังร้อยไหม ไม่ควรการออกกำลังกายอย่างหนัก จนกว่าอาการปวดบวมจะทุเลาลง ประมาณ 1-2 อาทิตย์ เนื่องจากอาจจะมีเหงื่อที่โดนรอยร้อยไหมที่อาจจะยังไม่สนิทหรือการยุบบวมช้า หากหลีกเลี่ยงไปก่อนจะดีมากค่ะ
 
12. Q : หลังร้อยไหม งดแอลกอฮอร์กี่วัน 
A : ควรงดแอลกอฮอร์ล 2 สัปดาห์ หรือ 14 วัน เพื่อช่วยให้ผิวสมานและหายเร็วขึ้น และป้องกันการอักเสบได้ด้วยค่ะ และอย่าลืมทานยาตามหมอสั่งนะคะ
 
13. Q : ร้อยไหม พร้อมฉีดเมโสแฟต(meso fat)ได้ไหม
A: สามารถทำพร้อมกันได้ในวันเดียวกัน แต่กรณีบางท่านแก้มเยอะมาก แพทย์อาจจะพิจารณาให้ฉีด เมโสแฟต(meso fat)ก่อน แล้วค่อยกลับมาร้อยไหมเพื่อให้ยกกระชับได้มากขึ้นดีขึ้น ตามแต่พิจารณาแต่ละเคสไม่เหมือนกัน
 
14. Q : ร้อยไหมแล้วทำ HIFU ได้ไหม
A: สามารถทำได้ค่ะ แต่ควรหลังร้อยไหมไปแล้วประมาณ 1 เดือนนะคะ เพื่อให้ไหมเข้าที่ก่อน หรือบางท่านจะทำไฮฟู (HIFU)พร้อมกันในวันเดียวกันก็สามารถทำได้ค่ะ
 
15. Q : หลังร้อยไหม แต่งหน้าได้ไหม
A : หลังร้อยไหมไม่แนะนำค่ะให้แต่งหน้าในทันทีนะคะ เนื่องจากผิวยังมีรอยเข็มจากการฉีดยาชาและร้อยไหม อาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อได้  แต่วันรุ่งขึ้นก็แต่งหน้าได้ตามปกติ 

 

เป็นอย่างไรบ้างค่ะ การดูแลตัวเองและอาการที่อาจจะเกิดขึ้นได้หลังร้อยไหมสำหรับใครที่อยากจะร้อยไหม หรือร้อยไหมไปแล้วพบอาการผิดปกติตามที่แจ้งมาก็ไม่ต้องกังวลนะคะ แต่หากมีการบวมมากกว่าปกติหรือมีไหมโผล่ในบางจุด แนะนำให้เข้ามาพบแพทย์ก่อนวันนัดได้เลยค่ะ
เงื่อนไขอื่นๆ

ขั้นตอนการร้อยไหม

 ” การร้อยไหม “ หนึ่งในเทคโนโลยีเสริมความงาม ที่ช่วยให้ดูอ่อนกว่าวัย ด้วยการยกกระชับผิวให้เต่งตึง ด้วยไหมละลายโดยไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งแน่นอนว่า เราทุกคนโดยเฉพาะคุณสาวๆ ต่างต้องการให้ตนเองดูดี โดยหลักการของการร้อยไหม จะเป็นการใช้ไหมเส้นเล็กๆ มาร้อยเข้าที่ใต้ผิวหนัง เพื่อให้เกิดการอักเสบ และกระตุ้นให้เซลล์ซึ่งมีหน้าที่สร้างเส้นใยคลอลาเจนทำงานสร้างคลอลาเจนขึ้นมาใหม่ ส่งผลให้หน้าตึง ยกกระชับ และทำให้เกิดการไหลเวียนโลหิต ทำให้หน้าสวยใสขึ้น

 

ร้อยไหม เหมาะกับใคร?
  การร้อยไหมเหมาะกับคนที่มีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย ไม่กระชับ เมื่ออายุมากขึ้น คอลลาเจนใต้ผิวหนังจะลดลง คือผิวหน้าส่วนใหญ่จะมากองอยู่ที่ขอบกราม บริเวณเหนียง นอกจากนี้ยังเหมาะกับคนไข้ที่มีแก้มค่อนข้างเยอะ แก้มบริเวณปากหรือใต้โหนกเยอะ การร้อยไหมจะช่วยเก็บกระเปาะแก้มได้ค่อนข้างดี

 

เตรียมตัวก่อนการร้อยไหม
   ก่อนเข้ารับการร้อยไหม ควรศึกษาหาข้อมูลของแพทย์ ที่เราจะเข้ารับการร้อยไหมก่อนว่า มีฝีมือและความชำนาญในการร้อยไหมเพียงพอหรือไม่ เพราะอาจเจอแพทย์ที่ไม่มีความชำนาญเพียงพอ ทำให้ได้รับการร้อยไหมที่ไม่ดี รูปหน้าอาจไม่เปลี่ยนเลย จนถึงขั้นร้อยไหมจนใบหน้าผิดรูปได้ก่อนการร้อยไหมแพทย์จะให้คำปรึกษา ควรขอคำแนะนำและสอบถามข้อมูลต่างๆ ให้ละเอียด

 

ขั้นตอนการร้อยไหม
   เมื่อแพทย์ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์โครงสร้างของปัญหาเรียบร้อยแล้ว จากนั้นจะต้องทำการเตรียมผิวให้สะอาด 100% ด้วยการ Cleansing ล้างเครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดสูตรอ่อนโยนให้เรียบร้อย หลังจากนั้นจะทายาชาบริเวณที่ต้องการยกกระชับ ทิ้งไว้ประมาณ 30-45 นาที จึงเช็ดออกให้สะอาด พร้อมเข้าสู่ขั้นตอนการฆ่าเชื้อทำความสะอาดแบบครบวงจรอีกครั้งหนึ่ง แพทย์จะทำการฉีดยาชาบล็อกเพิ่มให้อีกรอบหนึ่งเพื่อป้องกันคนไข้เจ็บ รอยาชาออกฤทธิ์ประมาณ 30 วินาที ก็เริ่มเข้าสู่ ขั้นตอนการร้อยไหม
   แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะนำเส้นไหมที่อยู่ตรงปลายเข็มเข้าไปยึดตามเนื้อเยื่อผิว โดยจะใช้วิธีการร้อยเรียงเส้นไหมแบบเป็นมิติ แพทย์จะพิจารณาตามโครงสร้างโครงหน้าของคนไข้เป็นหลัก ในเวลาเพียง 30 – 50 นาที เมื่อร้อยไหมเสร็จแล้ว ทางแพทย์จะประคบเย็นบริเวณที่ร้อยไหมเพื่อไม่ให้ใบหน้าเราบวม สามารถกลับบ้าน และใช้ชีวิตได้ปกติ อาการบวมต้องใช้เวลาประมาณ 4-7วัน อาการจะลดน้อยลง และใบหน้าจะเข้ารูปประมาณ 1-2 เดือน หากมีอาการที่ผิดปกติแก่ร่างกายควรเข้าพบแพทย์โดยเร็วที่สุด

 

การดูแลหลังจากการร้อยไหม?
การดูแลหลังจากการร้อยไหมเป็นสิ่งสำคัญที่ควรปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็น

 

1.ห้ามอ้าปากกว้าง
หลังจากร้อยไหม ไม่ควรอ้าปากกว้าง เนื่องจากไหมที่ร้อยจะรั้งและดึงผิวไว้ ทำให้เกิดการตึงบริเวณใบหน้า ซึ่งอาการดังกล่าวเป็นอาการปกติที่เกิดขึ้นหลังจากการร้อยไหม นอกจากนี้ จำนวนเส้นไหมที่ใช้ในการร้อยก็เป็นปัจจัยหนึ่ง เพราะหากใช้ไหมเยอะในการร้อย อาจจะเกิดอาการตึง ได้มากกว่า ร้อยด้วยไหมจำนวนน้อย โดยอาการดังกล่าวจะเป็นมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับเคสของแต่ละบุคคล

 

2.ห้ามทำ Laser หลังร้อยไหม
หลังจากการทำร้อยไหม ไม่ควรทำเลเซอร์หรือหัตถการใดๆ กับใบหน้าประมาณ 2 สัปดาห์ ควรพักหน้า 2 สัปดาห์ เพราะความร้อนจะกระตุ้นให้ผิวเกิดการอักเสบได้ หรืออาจจะทำให้ไหม เกิดการเคลื่อนที่ได้

 

3.ห้ามนวดหน้า
หลังการร้อยไหม ไม่ควรนวดหน้าแรงๆ ในตำแหน่งที่ร้อยไหม ประมาณ 2 เดือน เพราะอาจเกิดอาการผิวหนังบวมแดง หรือ ตุ่มตามแนวที่ร้อยไหมได้ รวมถึงมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ

 

4. ห้ามแต่งหน้า 4 ชม.
หลังการร้อยไหม ไม่แนะนำให้แต่งหน้า และหลีกเลี่ยงเครื่องสำอาง สัมผัสบริเวณผิวหน้า ตรงที่ร้อยไหม เพราะอาจเกิดการติดเชื้อได้ง่ายโดยเฉพาะ วันแรกหลังจากร้อยไหม พอวันรุ่งขึ้น ก็สามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ

 

5.ห้ามออกกำลังกาย
หลังจากร้อยไหม ควรงดการออกกำลังกายอย่างหนัก จนกว่าอาการปวดบวมจะทุเลา

 

6. ห้ามดื่มแอลกอฮอล์
หลังจากร้อยไหม ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เหล้า เบียร์ เพราะแอลกอฮอล์ มีส่วนกระตุ้นให้ผิวอักเสบ ควรงดแลกอฮอร์ ประมาณ 2 สัปดาห์

 

7. ห้ามแกะเกา บริเวณแผล
หลังจากร้อยไหม ควรหลีกเลี่ยงการแกะเกา บริเวณแผลที่ร้อยไหม เพราะอาจเกิดการติดเชื้อได้ง่าย โดยหลังจากร้อยไหม แพทย์จะมีการปิดพลาสเตอร์ที่แผลให้ เพื่อป้องกันเชื้อโรค โดยสามารถแกะพลาสเตอร์ออกได้ในวันรุ่งขึ้น

 

⇒สิ่งสำคัญคือการพบแพทย์ตามที่แพทย์นัดตอนครบกำหนด 1 เดือน เพื่อเป็นการติดตามอาการ มีอะไรเปลี่ยนแปลง หรือมีปัญหาตรงไหนให้รีบแจ้งแพทย์ได้เลย⇐


7 ข้อห้าม หลังร้อยไหม
      การร้อยไหม เป็นนวัตกรรมในการปรับรูปหน้า ยกกระชับผิวหน้าที่หย่อนคล้อย ให้เต่งตึง ช่วยให้เราดูอ่อนกว่าวัย ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะไม่ต้องผ่าตัด พักฟื้นนาน และเจ็บเพียงเล็กน้อย เห็นผลเร็วทันใจ หลังจากร้อยไหมแล้ว สามารถทำงานได้ตามปกติ
การร้อยไหม เหมาะกับคนที่อายุ 25 ปีขึ้นไป เนื่องจากผิวหน้าเริ่มหย่อนคล้อยไม่เต่งตึง ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การเสื่อมสภาพของคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวหลวม ไม่แน่น จนหย่อนคล้อยในที่สุด หรือไม่ได้บำรุงใบหน้าดีเท่าที่ควร อาจทำให้หน้าไม่กระชับเท่าที่ควร
 
 
ซึ่งการร้อยไหมเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาดังนี้
ผิวหน้าหย่อนคล้อย
กรอบหน้าไม่ชัดเจน
แก้มป่อง มีกระเปาะแก้ม
 
 
ข้อดีของการร้อยไหม
การร้อยไหมจะเห็นผลทันทีหลังทำ
การร้อยไหมช่วยแก้ปัญหาผิวหน้าที่หย่อนคล้อย หลังการร้อยไหม สามารถอยู่ได้นาน
การร้อยไหมช่วยปรับรูปหน้าเรียว วีเชฟได้
การร้อยไหม จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างของคอลลาเจนใต้ผิว ทำให้เกิดการกระชับตึงขึ้นในทันที
การร้อยไหมจะทำให้ผิวเต่งตึง ยกกระชับมากขึ้น และได้ผลต่อเนื่องนาน
ขณะที่ไหมละลายอยู่ใต้ผิวหนัง จะทำให้เกิดการกระตุ้นสร้างเส้นเลือดใหม่ ทำให้ผิวเกิดการไหวเวียนเลือดที่ดีขึ้น
   
   แต่หลายๆคน ก็คงมีคำถาม และคงอดสงสัยไม่ได้ว่า หลังการร้อยไหมจะมีผลข้างเคียงอะไร ควรดูแลตัวเองอย่างไร และมีข้อห้ามอะไรบ้าง ซึ่งวิธีดูแลตัวเองหลังร้อยไหม ก็ไม่ยุ่งยากเลย มาดูกันค่ะ  ว่าเราควรดูแลตัวเองอย่างไร และมีข้อห้ามอะไรบ้าง ที่เราควรหลีกเลี่ยง ไปดูกันเลยค่ะ
 
 
7 ข้อห้าม หลังร้อยไหม
 
 
1.ห้ามอ้าปากกว้าง
   หลังจากร้อยไหม ไม่ควรอ้าปากกว้างเกินไป เนื่องจากไหมที่ร้อยจะรั้งและดึงผิวไว้ ทำให้การตึงบริเวณใบหน้า ซึ่งอาการดังกล่าวเป็นอาการปกติที่เกิดขึ้นหลังจากการร้อยไหม นอกจากนี้ จำนวนเส้นไหมที่ใช้ในการร้อยก็เป็นปัจจัยหนึ่ง เพราะหากใช้ไหมเยอะในการร้อย อาจจะเกิดอาการตึง ได้มากกว่า ร้อยด้วยไหมจำนวนน้อย โดยอาการดังกล่าว จะเป็นมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับเคสของแต่ละบุคคล
 
 
2.ห้ามทำ Laser  หลังร้อยไหม
      หลังจากการทำร้อยไหม ไม่ควรทำเลเซอร์หรือหัตถการใดๆ กับใบหน้าประมาณ 2 สัปดาห์ ควรพักหน้า 2 สัปดาห์  เพราะความร้อนจะกระตุ้นให้ผิวเกิดการอักเสบได้ หรืออาจจะทำให้ไหม เกิดการเคลื่อนที่ หรือละลายเร็วกว่าปกติ
 
 
3.ห้ามนวดหน้า
      หลังการร้อยไหม ไม่ควรนวดหน้าแรงๆ ในตำแหน่งที่ร้อยไหม ประมาณ 1 เดือน  เพราะอาจจะทำให้เส้นไหมเคลื่อนที่หรือบิดเบี้ยวได้ รวมถึงมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อบริเวณรอยรูเข็มที่ยังปิดไม่สนิทได้ง่าย
 
 
4.ห้ามแต่งหน้า 4 ชม.
      หลังการร้อยไหม ไม่แนะนำให้แต่งหน้า และหลีกเลี่ยงเครื่องสำอาง สัมผัสบริเวณผิวหน้า ตรงที่ร้อยไหม เพราะอาจเกิดการติดเชื้อได้ง่าย โดยเฉพาะ วันแรกหลังจากร้อยไหม พอวันรุ่งขึ้น ก็สามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ
 
 
5.ห้ามออกกำลังกาย
      หลังจากร้อยไหม ควรงดการออกกำลังกายอย่างหนัก เพราะการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างหนัก หลังจากร้อยไหมในช่วงแรกๆ อาจส่งผลต่อเนื้อเยื่อที่ยังช้ำอยู่ และเกิดอาการบวมได้
 
 
6.ห้ามดื่มแอลกอฮอล์
      หลังจากร้อยไหม ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เหล้า เบียร์ เพราะแอลกอฮอล์ มีส่วนกระตุ้นให้ผิวอักเสบ ควรงดแลกอฮอร์ ประมาณ 2 สัปดาห์
 
 
7.ห้ามแกะเกา บริเวณแผล
      หลังจากร้อยไหม ควรหลีกเลี่ยงการแกะเกา บริเวณแผลที่ร้อยไหม เพราะอาจเกิดการติดเชื้อได้ง่าย  โดยหลังจากร้อยไหม แพทย์จะมีการปิดพลาสเตอร์ที่แผลให้ เพื่อป้องกันเชื้อโรค โดยสามารถแกะ พลาสเตอร์ออกได้ในวันรุ่งขึ้น
 
 
     เป็นอย่างไรกันบ้างคะ  สำหรับ 7 ข้อห้ามในการปฏิบัติตัวหลังจากร้อยไหม ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ เชื่อว่าสาวๆ ทุกๆคนทำได้อย่างแน่นอนค่ะ และสำหรับสาวๆ ที่อยากจะร้อยไหม ปรับรูปหน้าให้สวยเรียวเล็ก  สามารถเข้ามาปรึกษาคุณหมอได้ก่อนนะคะ ปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ



 
Tags

วิธีการชำระเงิน

บมจ. ธนาคารกสิกรไทย สาขาโลตัสปทุมธานี ออมทรัพย์

นโยบายการเปลี่ยนหรือคืนสินค้า

ไม่รับคืนสินค้าหรือเปลี่ยนคืน
รายการสั่งซื้อของฉัน
เข้าสู่ระบบด้วย
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก

ยังไม่มีบัญชีเทพ สร้างบัญชีใหม่ ไม่มีค่าใช้จ่าย
สมัครสมาชิก (ฟรี)
รายการสั่งซื้อของฉัน
ข้อมูลร้านค้านี้
ร้านBossmediloyal Clinic
Bossmediloyal Clinic
กลูต้าไธโอน วิตามิน อาหารเสริมควบคุมน้ำหนัก OEM อาหารเสริม อยากมีแบรนด์เป็นของตัวเอง ลงทุนน้อยก็ทำได้
เบอร์โทร : 0955351313
อีเมล : thecosmowin@hotmail.com
ส่งข้อความติดต่อร้าน
เกี่ยวกับร้านค้านี้
สินค้าที่ดูล่าสุด
ดูสินค้าทั้งหมดในร้าน
สินค้าที่ดูล่าสุด
บันทึกเป็นร้านโปรด
Join เป็นสมาชิกร้าน
แชร์หน้านี้
แชร์หน้านี้

TOP เลื่อนขึ้นบนสุด
พูดคุย-สอบถาม