เจ้าของร้านค้านี้ ไม่ได้เข้าสู่ระบบเป็นระยะเวลา 28 วัน แล้ว
ไม่รับคืนสินค้าหรือเปลี่ยนคืน
ข้อมูล
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
รายละเอียดสินค้า

ทำ HIFU ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง?

ตามธรรมชาติแล้วเมื่ออายุมากขึ้นผิวหนังของเราจะเริ่มหย่อนคล้อย ขาดความกระชับ ทำให้เริ่มมีร่องใต้ตา ร่องแก้ม ร่องมุมปาก เป็นต้น โดยสาเหตุเกิดจากการยืดออกของคอลลาเจนและอีลาสติน เครื่อง HIFU จึงถูกออกแบบให้สามารถกระตุ้นคอลลาเจนในทุกชั้นผิว และสร้างเนื้อเยื่อขึ้นมาใหม่ ซึ่งเนื่อเยื่อที่สร้างขึ้นใหม่นี้จะกระชับและแน่นกว่าเดิม

 

  • ลดความหย่อนคล้อยของผิว ใบหน้า และลำคอ
  • สามารถแก้ปัญหาริ้วรอยบนผิวหน้า หน้าผาก และรอบดวงตา
  • แก้ปัญหาชั้นไขมันใต้คาง แก้ม เหนียง
  • แก้ปัญหาหนังตาตก ช่วยยกหางคิ้วขึ้น
  • ช่วยยกกระชับผิวบริเวณร่างกายส่วนอื่น เช่น ต้นแขน ท้องแขน หน้าท้อง เอว สะโพก ต้นขา เป็นต้น

HIFU มีกระบวนการทำงานอย่างไร

HIFU (High Intensity Focused Ultrasound) เป็นเทคโนโลยีการยกกระชับผิว มีกระบวนการทำงานโดยการส่งผ่านคลื่นโฟกัสอัลตราซาวด์ลงไปในผิวชั้นลึก เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนใหม่ เครื่อง HIFU ที่ดีได้มาตรฐานผ่านการรับรอง จะต้องมีการปล่อยความแรงของพลังงานอย่างสม่ำเสมอ ระหว่างยิงพลังงานคงที่ และสามารถเลือกใช้หัวยิงให้เหมาะกับระดับผิวได้ (อาจมีความลึกระดับอื่นอีกตามแต่ละเครื่องที่ทำออกมาขาย) ดังนี้

  • ผิวชั้นบน (Upper Dermis) ใช้หัวความลึก 1.5-2.0 mm ช่วยเรื่องยกกระชับ ลดริ้วรอยในระดับที่ไม่ลึกมาก และช่วยกระตุ้นคอลลาเจน
  • ผิวชั้นกลาง (Lower Dermis) ใช้หัวความลึก 3.0 mm ช่วยกระชับใบหน้า ลดไขมันและเซลลูไลท์
  • ผิวชั้นเยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ (SMAS) เป็นชั้นที่ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้าให้กระชับ ใช้หัวความลึก 4.5 mm ช่วยกระชับกล้ามเนื้อและยกแก้ม

Hifu ช่วยแก้ปัญหาเรื่องใดได้บ้าง?

  Hifu ช่วยแก้ปัญหาเรื่องผิวหนังหย่อนคล้อย ผิวไม่กระชับได้ทั้งใบหน้า เหนียง ลำคอ เอว หน้าท้อง สะโพก ต้นแขน ต้นขา ฯลฯ มีริ้วรอยเหี่ยวย่น ไม่ว่าจะเป็นบนผิวหน้า หรือรอบดวงตา นอกจากนี้ยังสามารถแก้ปัญหาหนังตาตกได้ ทำให้ดวงตาสดใส ดูโตขึ้นโดยไม่ต้องทำการศัลยกรรม นอกจากนี้ยังช่วยลดปัญหาชั้นไขมันบริเวณเหนียง ใต้คางได้ด้วย

ใครเหมาะกับการทำ Hifu บ้าง?

  เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายก็จะมีการผลิตคอลลาเจน และเส้นใยอีลาสตินน้อยลง ส่วนคอลลาเจนที่มีอยู่ในร่างกายก็จะค่อย ๆ สลายหายไปตามธรรมชาติ กลไกการเสื่อมโทรมของอวัยวะในร่างกายจึงทำให้เกิดความแก่ชรา ผิวหนังหย่อนคล้อย มีริ้วรอย และไม่กระชับได้ ดังนั้น Hifu จึงเหมาะสำหรับทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการให้ร่างกายมีการสร้าง Collagen เส้นใยอิลาสติน และเนื้อเยื่อของเซลล์ผิวระดับลึกขึ้นมาใหม่ตามธรรมชาติ เพื่อแก้ไขปัญหาความหย่อนคล้อย ผิวไม่ยกกระชับ มีริ้วรอย มีเหนียง หรือคางสองชั้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหัตถการนี้มีความปลอดภัยสูงมาก ไม่ต้องทำการพักฟื้น หรือผ่าตัดศัลยกรรมใด ๆ เลย

Hifu มีหลักการทำงานอย่างไร?

  Hifu ทำงานโดยใช้พลังงานคลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์ที่มีความเข้มข้นสูงส่งผ่านหัวยิงคลื่นที่กำหนดระยะความลึก ไปยังชั้นผิวหนังชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) อย่างแม่นยำ เพื่อทำลายเนื้อเยื่อในชั้นใต้ผิวหนัง ทำให้ชั้นไขมันหดตัวลง คล้ายกับวิธีการเย็บกล้ามเนื้อในการศัลยกรรมดึงหน้า จึงทำให้ผิวดูยกกระชับขึ้น แก้ปัญหาความหย่อนยาน กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และเนื้อเยื่อใหม่ใต้ผิวหนัง พร้อมเผยผิวสดใส เปล่งปลั่ง อ่อนเยาว์ดูเป็นธรรมชาติ

Hifu ทำบริเวณไหนได้บ้าง?

  สามารถใช้การยิงไฮฟู่ได้ทุกบริเวณที่ต้องการยกกระชับผิว ซึ่งแต่ละบริเวณจะใช้หัวยิงที่มีความลึกแตกต่างกัน มีคุณสมบัติในการรักษาต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นแค่การลดเลือนริ้วรอย การลดไขมัน และเซลลูไลท์ การยกกระชับใบหน้า การลดเลือนริ้วรอยร่องลึก เป็นต้น นอกจากนี้ยังสามารถใช้ลดริ้วรอยใต้ดวงตา และรอบดวงตาได้อย่างปลอดภัย ลดแก้ม ลดเหนียง ลดไขมันต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง เอว และสะโพกได้

Hifu กี่วันเห็นผล?

  หลังจากการทำ Hifu ก็เห็นผลประมาณ 20% ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ หลังจากนั้นประมาณ 1-2 เดือนก็จะเห็นผลชัดเจนมากยิ่งขึ้น สามารถเห็นผลได้อย่างเต็มที่ในช่วงประมาณ 3-4 เดือนถัดไป

Hifu อยู่ได้กี่เดือน อยู่ได้นานไหม?

  ผลลัพธ์การรักษาด้วย Hifu อยู่ได้ประมาณ 5-6 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาสุขภาพของผู้เข้ารับการรักษา โดยสามารถทำการรักษาซ้ำได้ทุก ๆ 3 เดือน

เปรียบเทียบ Hifu กับ โบท็อกซ์ มีความแตกต่างอย่างไร?

  หัตถการในการรักษาความหย่อนคล้อยของใบหน้ามีหลายวิธี ซึ่ง Hifu กับ โบท็อกซ์ เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมค่อนข้างสูง โดยมีความแตกต่างกัน ดังนี้

  1. Hifu เป็นเทคโนโลยีที่กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนด้วยคลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์ผ่านหัวยิงขนาดเล็ก แต่ โบท็อกซ์ จะเป็นการฉีดสาร HA เข้าไปใต้ชั้นผิวหนังด้วยเข็มขนาดเล็กเครื่องกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
  2. Hifu สามารถทำได้กับทุกส่วนในร่างกายเพื่อผลในการยกกระชับ ลดไขมัน และลดริ้วรอยเป็นวงกว้าง มีข้อจำกัดน้อย แต่ โบท็อกซ์ นิยมใช้ฉีดเฉพาะส่วน โดยแต่ละบริเวณที่ฉีดถูกกำหนดด้วยปริมาณ CC ของ โบท็อกซ์ ตามที่แพทย์แนะนำเพื่อผลในการรักษาที่เป็นธรรมชาติ
  3. Hifu เป็นหัตถการที่ให้ผลเพียงชั่วคราว โดยปกติแล้วจะอยู่ได้นานประมาณ 6 เดือน แต่ โบท็อกซ์ ให้ผลที่ยาวนานกว่า ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ บริเวณที่ใช้ และ CC ที่ใช้ ส่วนมากแพทย์จะแนะนำให้ทำไฮฟู่ร่วมกับอัตราการรักษาอื่น ๆ เช่น การฉีดโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ ร้อยไหม เป็นต้น

การทำ HIFU สามารถทำได้เกือบทุกบริเวณที่เราต้องการให้ผิวยกกระชับขึ้น ไม่ว่าจะเป็น บริเวณใบหน้า ต้นแขน ขา เป็นต้น โดยมีรายละเอียดดังนี้

ใต้ตา

ปัญหาริ้วรอยใต้ตาและรอบดวงตา สามารถแก้ไขด้วยการทำ HIFU เพราะสามารถเก็บรายละเอียดเล็ก ๆ ได้อย่างทั่วถึง ทำให้ผิวใต้ตาตึง กระชับ และเรียบเนียนขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถทำไฮฟู่ร่วมกับหัตถการอื่นได้เพื่อให้ผลลัพธ์ได้ประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น ทำ HIFU ใต้ตาร่วมกับฟิลเลอร์ใต้ตา เพื่อให้ริ้วรอยตื้นขึ้น กระชับขึ้น เป็นต้น

แก้ม

HIFU แก้ม เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาไขมันแก้ม แก้มหย่อน เป็นต้น การทำไฮฟู่แก้มจะช่วยยกกระชับแก้ม ลดไขมันแก้ม ส่งผลให้ผิวเกิดการยกกระชับ รวมถึงยังช่วยเก็บกรอบหน้าให้หน้าเรียวมากขึ้นด้วย พร้อมกับกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนใหม่ที่แข็งแรงกว่าเดิม

เหนียง

ผู้ที่มีปัญหาไขมันส่วนเกินบริเวณคาง คางสองชั้น หรือเหนียง การทำ HIFU เหนียงจะช่วยลดการหย่อนคล้อยของผิว ยกกระชับเหนียงและบริเวณลำคอขึ้น และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิว

ส่วนอื่น ๆ ตามลำตัว

การทำ HIFU สามารถทำได้เกือบทุกบริเวณที่เราต้องการให้เกิดกระชับขึ้น ซึ่งรวมถึงส่วนต่าง ๆ บนร่างกายด้วย ดังนี้

  • ร่างกายส่วนบน เช่น ต้นแขน
  • ร่างกายส่วนล่าง เช่น เอว หน้าท้อง สะโพก ต้นขา

ข้อดีของการทำ HIFU

HIFU เป็นหัตถการที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้ผิวยกกระชับ มีริ้วรอยน้อย ๆ มีร่องลึกไม่มาก โดยข้อดีของการทำ HIFU มีดังนี้

 

  • ช่วยยกกระชับใบหน้า รวมถึงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
  • ช่วยลดเลือนริ้วรอยตื้น ๆ และช่วยสลายไขมันในบางส่วน
  • หากต้องการทำ HIFU ริ้วรอยใต้ตา จะไม่เป็นอันตรายต่อสายตา สามารถเน้นบริเวณรอบดวงตาและใต้ตาได้
  • มีความปลอดภัย ไม่ทำร้ายผิวหนังชั้นนอก
  • สามารถช่วยปรับรูปหน้าได้ หน้าเรียวขึ้น เมื่อทำ HIFU กรอบหน้า เหนียง คอ หรือบริเวณทั่วใบหน้า
  • ไม่มีการผ่าตัด ไม่ใช้เข็ม ไม่ต้องพักฟื้นนาน
  • ไม่มีรอยเข็ม รอยช้ำ

HIFU เหมาะกับใคร?

HIFU สามารถทำได้ทุกเพศ ทำได้บ่อยครั้ง และยังสามารถทำร่วมกับหัตถการอื่น ๆ ได้ด้วย

 

  • ผู้ที่มีปัญหาผิวขาดความกระชับ มีความหย่อนคล้อย
  • ผู้ที่มีริ้วรอยเล็ก ๆ หรือร่องใต้ตา ร่องแก้มไม่ลึกมาก
  • ผู้ที่ต้องการให้กรอบหน้าชัด ลดแก้ม ลดเหนียง
  • ผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวแบบไม่ต้องการแผล ไม่ฉีด ไม่ต้องผ่าตัด
  • ผู้ที่ไม่มีเวลาพักฟื้น

HIFU กี่ไลน์เห็นผล

การทำ HIFU กี่ไลน์ถึงจะเห็นผลนั้นขึ้นอยู่กับปัญหาของคนไข้แต่ละคน ไม่ว่าจะเป็น ตำแหน่งที่ทำ HIFU ความหย่อนคล้อยของผิว ปริมาณไขมัน สภาพผิวที่เป็นอยู่ ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลต่อการรักษาทั้งหมด ดังนั้นก่อนทำ HIFU ควรให้แพทย์เป็นผู้ประเมินปัญหาก่อน เพื่อรับคำแนะนำว่าตำแหน่งไหนควรใช้กี่ไลน์ หรือควรแก้ไขตรงไหนเป็นพิเศษ เป็นต้น สำหรับการประเมินจำนวนไลน์ คร่าว ๆ แต่ละบริเวณจะใช้จำนวนไลน์ขั้นต่ำดังนี้ (ทั้งนี้ขึ้นกับสภาพผิวหน้าแต่ละบุคคลและการประเมินจากแพทย์ด้วย)

 

  • ใต้ตารวมร่องแก้ม ใช้ประมาณ 300 ไลน์
  • แก้มรวมเหนียง ใช้ประมาณ 300 ไลน์
  • เหนียง ใช้ประมาณ 100 ไลน์
  • ทั่วหน้า หรือต้นแขน ใช้ประมาณ 500-700 ไลน์
  • ทั่วหน้ารวมลำคอ ใช้ประมาณ 1,000 ไลน์
  • ต้นขา ใช้ประมาณ 1,000 ไลน์

 

ถ้าเลือกใช้จำนวนไลน์ที่ไม่พอดีกับปัญหาที่ต้องการแก้ไข อาจทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้สั้นลงหรืออาจไม่เห็นผลชัดเจนตามที่ตนเองคาดหวังไว้ ดังนั้นหากต้องการเห็นผลลัพธ์ที่ดี ควรให้หมอที่มีประสบการณ์ประเมินใบหน้าและคำนวณจำนวนไลน์ที่ใช้ เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ได้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล รวมถึงช่วยแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด

“หน่วยของ HIFU สามารถนับได้ทั้ง ไลน์ (Line) และ ช็อต (Shot) ซึ่งเรียกตามหัวยิงของเครื่อง HIFU เช่น หัวยิงแบบ Single Shot และหัวยิงแบบ Line Cartridge โดยหัวยิงทั้งสองจะมีความแตกต่างกันในเรื่องการให้ผลลัพธ์”

หลังทำ HIFU กี่วันถึงจะเห็นผล

หลังทำ HIFU สามารถเห็นผลความกระชับได้เล็กน้อย และจะเห็นผลหลังทำเต็มที่ในระยะเวลา 1-2 เดือน หลังทำไฮฟู่จะไม่มีแผล ไม่มีรอยเข็ม ไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติเลย

การทำ HIFU อยู่ได้นานไหม

HIFU อยู่ได้นานไหม? โดยทั่วไปการทำ HIFU 1 ครั้ง จะสามารถอยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเครื่อง HIFU ที่ใช้ การใช้ค่าพลังงาน และการดูแลตนเองหลังทำ HIFU ด้วย สำหรับผู้ที่ต้องการให้ผลลัพธ์ชัดเจนยิ่งขึ้น สามารถกลับมาทำซ้ำได้ทุก 3 เดือน

ทำ HIFU เจ็บไหม

การทำ HIFU เจ็บไหม? ไฮฟูเป็นหัตถการที่ทำแล้วค่อนข้างเจ็บในระดับหนึ่ง เนื่องจากขณะทำมีการยิงคลื่นเสียงเข้าถึงชั้นเยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ (SMAS) เพื่อยกกระชับ ส่งผลให้มีความรู้สึกตึง ๆ ปวด ๆ บริเวณใต้ชั้นผิว แต่ถ้าหากเจ็บมากเกินไปหรือไม่ต้องการให้เจ็บมาก สามารถบอกแพทย์ให้ลดระดับลงได้ ทั้งนี้ระดับความเจ็บของการทำ HIFU ยังขึ้นอยู่เครื่องที่ใช้ทำ HIFU อีกด้วย เพราะถ้าทำแล้วไม่รู้สึกเจ็บเลยอาจมาจากการที่หมอใช้พลังงานต่ำมากเกินไป หรือใช้เครื่องทำ HIFU ที่ไม่ได้มาตรฐาน

เงื่อนไขอื่นๆ
Tags

วิธีการชำระเงิน

บมจ. ธนาคารกสิกรไทย สาขาโลตัสปทุมธานี ออมทรัพย์

นโยบายการเปลี่ยนหรือคืนสินค้า

ไม่รับคืนสินค้าหรือเปลี่ยนคืน
รายการสั่งซื้อของฉัน
เข้าสู่ระบบด้วย
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก

ยังไม่มีบัญชีเทพ สร้างบัญชีใหม่ ไม่มีค่าใช้จ่าย
สมัครสมาชิก (ฟรี)
รายการสั่งซื้อของฉัน
ข้อมูลร้านค้านี้
ร้านBossmediloyal Clinic
Bossmediloyal Clinic
กลูต้าไธโอน วิตามิน อาหารเสริมควบคุมน้ำหนัก OEM อาหารเสริม อยากมีแบรนด์เป็นของตัวเอง ลงทุนน้อยก็ทำได้
เบอร์โทร : 0955351313
อีเมล : thecosmowin@hotmail.com
ส่งข้อความติดต่อร้าน
เกี่ยวกับร้านค้านี้
สินค้าที่ดูล่าสุด
ดูสินค้าทั้งหมดในร้าน
สินค้าที่ดูล่าสุด
บันทึกเป็นร้านโปรด
Join เป็นสมาชิกร้าน
แชร์หน้านี้
แชร์หน้านี้

TOP เลื่อนขึ้นบนสุด
พูดคุย-สอบถาม